นิเทศจตุกะที่ 2
คำทั้งหมดในจตุกะที่ 2 ตื้นทั้งนั้น.
นิเทศจตุกะที่ 3
ในจตุกะที่ 3 ความเป็นสัมปยุตตปัจจัยไม่มีแก่ปัจจัยใด ปัจจยาการใด
มี เพื่อทรงแสดงปัจจยาการนั้น ๆ ไว้แผนกหนึ่ง จึงตรัสว่า อิทํ วุจฺจติ
วิญฺญาณปจฺจยา นามรูปํ วิญฺญาณสมฺปยุตฺตํ นามํ นี้เรียกว่านามรูป
เรียกว่า นามสัมปยุตด้วยวิญญาณ เกิดขึ้นเพราะวิญญาณเป็นปัจจัย
ตติยจตุกนิเทศ จบ
นิเทศจตุกะที่ 4
นิเทศแห่งนามเกิดเพราะผัสสะเป็นปัจจัยในจตุกะที่ 4 แม้มิได้ตรัสว่า
"เวทนาขันธ์ ฯลฯ วิญญาณขันธ์ เว้นผัสสะ นี้เรียกว่า นามเกิดเพราะผัสสะ
เป็นปัจจัย" ดังนี้ ก็จริง ถึงอย่างนั้น เพราะได้ตรัสว่า "เวทนาขันธ์ ฯลฯ
วิญญาณขันธ์ เว้นผัสสะ" ดังนี้ ในนิเทศบทอดีตโดยลำดับ นั้นแม้มิได้ตรัส
ก็นับว่าเป็นอันตรัสแล้วโดยแท้ เพราะนามใดเป็นปัจจัยแก่ผัสสะนั้นแหละ แม้
ผัสสะก็เป็นปัจจัยแก่นามนั้น เหมือนกันฉะนี้แล.
จตุตถจตุกนิเทศ จบ
อนึ่ง พึงทราบนัย 8 แม้มีสังขารเป็นมูลเป็นต้น เหมือนนัยที่หนึ่ง
มีอวิชชาเป็นมูลซึ่งจำแนกไว้ 16 วาระ ในจตุกะ 4 ที่ทรงประกาศในอกุศลจิต